เล่าสู่กันฟัง: Sona, The Maven of Strings

Sona: นักดนตรีชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญในการเล่นเครื่องดนตรีปริศนา "etwahl"

ประวัติ
Sona (โซน่า) ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเอง เธอถูกทิ้งอยู่ที่หน้าประตูของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งประเทศ Ionia (ไอโอเนีย) ตั้งแต่ยังเป็นทารก ข้างๆตัวเธอนั้น มีเครื่องดนตรีโบราณที่ถูกเก็บในกล่องอันประณีตงดงามวางอยู่ด้วย

Sona เป็นเด็กที่มีความประพฤติดีจนน่าแปลกใจ เธอเป็นเด็กที่เงียบสงบและมีความสุขอยู่กับสิ่งที่ตัวเองมี เนื่องจากลักษณะนิสัยที่ดี พี่เลี้ยงทั้งหลายจึงมั่นใจว่า Sona จะต้องมีคนรับไปเลี้ยงในเร็ววันอย่างแน่นอน แต่ในภายหลัง พวกเค้าพบว่า เบื้องหลังความอ่อนโยนและจิตใจดีแบบผิดปกตินั้น จริงๆแล้วเนื่องมาจาก Sona ไม่สามารถที่จะพูดหรือเปล่งเสียงใดๆ เพื่อแสดงอารมณ์ออกมาได้

Sona อาศัยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งเธอเติบโตเป็นวัยรุ่น ถึงกระนั้น เธอก็ได้แต่เฝ้าดูเหล่าผู้รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเดินผ่านไปมา คนแล้วคนเล่า... ในตอนนี้เอง เหล่าพี่เลี้ยงของ Sona ได้ตัดสินใจขายเครื่องดนตรีประหลาดชิ้นที่ถูกทิ้งไว้ข้างๆตัว Sona ตอนที่เธอยังเป็นเด็กให้กับนักสะสมผู้ใจร้อนทั้งหลาย โดยพวกเค้าหวังว่า เงินที่ได้มาจะสามารถนำมาใช้เป็นทุนให้ Sona ได้ออกไปทำอะไรเป็นของตัวเอง... แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เครื่องดนตรีที่ขายไปจะปรากฏขึ้นที่หน้าสถานเด็กกำพร้า หรือกลับมาหา Sona ในที่สุด

ในเวลาต่อมา เรื่องราวของเครื่องดนตรีชิ้นนี้ได้ไปถึงหูของเศรษฐีนีชาว Demacia (เดอมาเซีย) ที่ชื่อว่า Lestara Buvelle (เลสทาร่า บูแวว) ซึ่งเธอได้ออกเดินทางไปที่ประเทศ Ionia (ไอโอเนีย) ในทันทีที่ได้ข่าว... เมื่อถึงที่หมาย เหล่าพี่เลี้ยงได้จัดแสดงเครื่องดนตรีชิ้นนั้นให้ Lestara ได้เห็น เธอลุกขึ้นโดยไม่พูดไม่จา เธอเริ่มต้นสำรวจสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องของ Sona... Lestara ตัดสินใจรับเลี้ยง Sona อย่างไม่ลังเล อีกทั้งยังให้เงินบริจาคแก่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นจำนวนมาก เพื่อแลกกับเครื่องดนตรีโบราณชิ้นนั้น

Lestara ช่วยแนะแนวให้ Sona ได้ค้นพบความสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่เธอมีต่อเครื่องดนตรีโบราณที่ Lestara เรียกมันว่า etwahl (เอ๊ทวัลล์)... เมื่อ etwahl อยู่ในมือของ Sona เสียงดนตรีที่เปล่งออกมาจากเครื่องดนตรีมักจะทำให้ผู้ฟังต้องหยุดนิ่ง หรือสั่นเทาอยู่เสมอ...

ภายในไม่กี่เดือน Sona ได้กลายเป็นนักเดี่ยวเครื่องดนตรีปริศนา etwahl ผู้โด่งดัง ตั๋วเข้าชมการแสดงของเธอจะขายหมดในทุกๆรอบที่แสดง การแสดงดนตรีของ Sona เปรียบเหมือนกับการชักใยหัวใจของผู้ฟัง ซึ่งเธอสามารถที่จะเปลี่ยนอารมณ์ของพวกเค้าได้ตามใจชอบ การแสดงของเธอจะไม่ใช้สมุดโน็ตดนตรีใดๆทั้งสิ้น

ในทางกลับกัน Sona ได้ค้นพบศักยภาพในการใช้ etwahl เพื่อความรุนแรงอย่างลับๆ เธอสามารถที่จะใช้แรงสั่นที่เกิดขึ้นจากการดีด etwahl ตัดและเฉือนสิ่งต่างๆที่อยู่ไกลออกไปได้... Sona ฝึกฝนศิลปะการใช้ etwahl ในด้านนี้ด้วยตัวเองจนเชี่ยวชาญ

เมื่อ Sona รู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้ว เธอจึงออกเดินทางไปยังสถานที่ๆเธอสามารถแสดงการเล่นดนตรีเดี่ยวที่เหมาะสมกับเธอและ etwahl ที่สุด สถานที่นั้นก็คือ การแข่งขัน League of Legends

"ท่วงทำนองของเธอทำให้สะเทือนไปถึงวิญญาณ ความเงียบงันของเธอตัดร่างกายให้แยกออกจากกัน" กล่าวโดย Jericho Swain (เจริคโก้ สเวน, ชื่อเต็มของ สเวน) หลังจากที่ดูการแสดงของ Sona เสร็จ

****ความรู้รกหัว
  • แม้ว่า Sona จะเป็นใบ้ แต่เธอสามารถที่จะพูดกับ summoner ได้ ดังที่เธอกล่าวในขณะที่เลือก champion ว่า ผู้ที่สามารถได้ยินเสียงของเธอคือ summoner ที่ควบคุมเธอเท่านั้น นอกจากนั้นแล้ว ในขณะที่ควบคุม Sona เธอมักจะพูดประโยคที่ว่า "From my mind, to yours" แปลว่า "จากจิตใจของฉัน ไปสู่จิตใจของคุณ" เพราะฉะนั้น มีความเป็นได้สูงมาก ที่เธอจะใช้พลังจิตในการสื่อสาร
  • "etwahl" คือคำที่ออกเสียงเหมือนกับคำว่า "étoile" ที่แปลว่า ดาว ในภาษาฝรั่งเศส

----------------------------------------


ประโยคที่ Sona พูดกับ summoner ในสถานการณ์ต่างๆ:

เมื่อเลือก champion:
  • "Only you can hear me Summoner, what masterpiece shall we play today?"  (summoner... คุณคือคนเดียวที่ได้ยินเสียงของฉัน วันนี้เราจะมาเล่นผลงานชิ้นเอกเพลงไหนกันดี)

เมื่อเคลื่อนที่ และทำการโจมตี:
  • "Accelerated movement, I concur." (ฉันเห็นด้วย กับการตัดสินใจอันรวดเร็วครั้งนี้)
  • "Accurate like a metronome." (แปลตรงตัวว่า "แม่นยำ เหมือนเมโทรโนม" เมโทรโนมคือสิ่งของอะไรก็ได้ ที่สร้างจังหวะได้อย่างต่อเนื่อง แม่นยำ และสม่ำเสมอ นักเล่นดนตรีมักจะใช้เมโทรโนมเพื่อซ้อม และเล่นดนตรี)
  • "Adagio, Summoner." (Adagio (อาดาจีโอ) เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า ง่ายๆ สบายๆ และยังเป็นคำที่ใช้กำหนดจังหวะการเล่นดนตรี โดยเป็นการบอกให้ผู้ที่เล่นดนตรี เล่นเพลงอย่างช้าๆ เพราะฉะนั้น ประโยคนี้จึงเปรียบเหมือนกับการบอกให้ summoner ใจเย็นๆ)
  • "Allegrissimo!" (Allegrissimo (อัลเลกริซโม) เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า ร่าเริง และยังเป็นคำที่ใช้กำหนดจังหวะการเล่นดนตรี โดยเป็นการบอกให้ผู้ที่เล่นดนตรี เล่นเพลงอย่างรวดเร็วมากๆ เพราะฉะนั้น ประโยคนี้จึงเปรียบเหมือนกับการบอกให้ summoner รับรู้ว่า เธอรับรู้คำสั่งแล้ว และจะทำตามอย่างรวดเร็ว)
  • "A sublime duet." (แปลตรงตัวได้ว่า "เป็นการแสดงแบบคู่ ที่ประเสริฐที่สุด" ทั้งนี้ Sona น่าจะหมายถึง การร่วมมือระหว่าง summoner และตัวของเธอเองที่เข้ากันได้ดีอย่างมาก เพราะว่า duet นั้น แปลว่า การแสดงโดยคนสองคน ผู้ซึ่งเข้ากันได้ดีในระดับหนึ่ง)
  • "A symphony of justice!" (บทเพลงแห่งความยุติธรรม)
  • "Brioso! Brioso!" (Brioso (บริโอโซ่) เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า มีชีวิตชีวา และยังเป็นคำที่ใช้กำหนดอารมณ์ในการเล่นดนตรี โดยเป็นการบอกให้ผู้ที่เล่นดนตรี เล่นเพลงอย่างมีชีวิตชีวา เพราะฉะนั้น ประโยคนี้จึงเปรียบเหมือนกับการบอกให้ summoner รับรู้ว่า เธอพอใจกับคำสั่งที่เธอได้รับมาและมีความสุขกับมัน)
  • "Delicately." (แปลตรงตัวว่า "อย่างประณีตบรรจง" ซึ่งน่าจะหมายความว่า Sona จะทำตามคำสั่งอย่างระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาด)
  • "From my mind to yours." (จากจิตใจของฉัน ไปสู่จิตใจของคุณ)
  • "Harmoniously." (แปลตรงตัวว่า "อย่างกลมกลืน" ซึ่งน่าจะหมายถึงความเข้ากันของเธอและ summoner)
  • "Order through music." (แปลตรงตัวว่า "สั่งการด้วยดนตรี" หมายถึงการที่ Sona สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และความคิดของผู้ฟังได้อย่างใจต้องการ)
  • "Quarter time!" (อ้างอิงมาจากเครื่องหมายประจำจังหวะของโน๊ตดนตรี ในที่นี้ Quarter time หมายถึง เศษหนึ่งส่วนสี่ของห้องดนตรี ซึ่งเท่ากับหนึ่งจังหวะ (ในห้องดนตรีที่มีจังหวะทั้งหมดสี่จังหวะ) ดังนั้น ประโยคนี้เปรียบเหมือน การรับคำสั่งของ Sona ซึ่งเธอจะทำตามที่สั่งอย่างรวดเร็ว)
  • "Shall we resolve this dissonance?" (แปลตรงตัวว่า "เรามาแก้ไขความไม่กลมกลืนกัน ดีมั้ย" ประโยคนี้เป็นการเล่นคำของคำว่า dissonance ที่แปลว่า ความไม่เข้ากัน และ แปลว่า ความไม่เข้ากันของเสียงดนตรีที่ยังต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์ เพราะฉะนั้น ประโยคนี้จึงสื่อความหมายได้สองแบบ ซึ่งก็คือ การที่ Sona พยายามจะแก้ไขความไม่กลมกลืนกันกับ summoner ของเธอ หรืออาจจะหมายถึง ความต้องการของ Sona ที่อยากจะจบความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เธอเป็นตัวแทนแข่งขันให้ กับประเทศฝ่ายตรงข้ามที่กำลังทำการแข่งขันกันอยู่)
  • "The Fanfare of Silence." (บทเพลงสรรเสริญชัยชนะแห่งความเงียบ)
  • "With perfect tempo." (ด้วยจังหวะที่สมบูรณ์แบบและแม่นยำ)

เมื่อทำการยั่วยุศัตรู (/T):
  • ** Sona เล่นเพลงเพื่อท้าทายศัตรู **

เมื่อพูดเล่น (/J):
  • ** Sona ดีด etwahl ให้เป็นเสียงกีต้าร์ไฟฟ้า **
  • ** Sona เล่นเพลงคริสมาส ชื่อว่า "Decks the Halls" ** (เมื่อใช้สกิน Silent Night Sona)