Alistar: นับรบเผ่ามิโนทัวร์ จากเทือกเขา The Great Barrier |
ประวัติ
ในฐานะสุดยอดนักรบเผ่ามิโนทัวร์แห่งเทือกเขา The Great Barrier (เดอะ เกรท แบริเอ้อ) ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา ... Alistar ได้ปกป้องเผ่าของเค้าจากอันตรายมากมายที่เกิดขึ้นบนแผ่นดิน Valoran (เวโลแรน) มาโดยตลอด... แต่ทุกๆอย่างก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อกองทัพของประเทศ Noxus (น๊อกซัส) เดินทางมาถึงหมู่บ้านที่ Alistar อาศัยอยู่
ในวันนั้น... Alistar โดนหลอกล่อให้เดินทางออกจากหมู่บ้านของตนเองโดยผู้บังคับบัญชาแห่งกองลาดตระเวนของประเทศ Noxus นามว่า Keiran Darkwill (คีย์แรน ดาร์ควิล) ลูกชายคนเล็กของนายพล Boram Darkwill (โบแรม ดาร์ควิล)... เมื่อ Alistar กลับมา เค้าต้องพบกับสภาพของหมู่บ้านที่กำลังลุกไหม้อยู่ในกองเพลิง และพบว่าสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวของเค้า ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด... ด้วยความโกรธแค้นสุมอก Alistar จึงพุ่งเข้าจู่โจมกองทัพของประเทศ Noxus ในทันที... เค้าสามารถฆ่าทหารชาว Noxus ได้หลายร้อยคน ก่อนที่ summoner ฝีมือดีชาว Noxus หลายคน จะร่วมมือกันเข้าขัดขวางและหยุดเค้าได้สำเร็จ... Alistar ถูกจับล่ามโซ่กลับมายังประเทศ Noxus ในฐานะทาส ผู้ซึ่งต้องต่อสู้กับนักรบคนอื่นๆ เพื่อให้ความบันเทิงกับเหล่าผู้นำของประเทศ Noxus
การต่อสู้ที่บังคับให้ Alistar ต้องฆ่าคนอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ได้เปลี่ยนจิตวิญญาณที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยเกียรติศักดิ์ศรีของเค้าให้กลับหม่นหมอง... Alistar เกือบจะต้องกลายเป็นคนเสียสติ ถ้าไม่ได้ Ayelia (เอเยเลีย) เด็กผู้หญิงที่เป็นทาสเหมือนๆกับเค้าคอยเป็นเพื่อนอยู่ใกล้ๆ เธอคือผู้ที่วางแผนให้ Alistar สามารถหลบหนีออกจากประเทศ Noxus ได้สำเร็จในที่สุด
เมื่อเป็นอิสระ... Alistar ได้เข้าร่วมกับองค์กรณ์ League of Legends เพื่อต่อสู้ในฐานะ champion คนหนึ่งในทันที ด้วยความหวังที่ว่า ซักวัน เค้าจะต้องได้จัดการกับประเทศ Noxus เพื่อแก้แค้นให้กับครอบครัว และตามหา Ayelia เด็กผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตของเค้ามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ให้จงได้
ในทีแรก Alistar จำเป็นที่จะต้องต้อนรับความมีชื่อเสียงในฐานะของ champion อย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก แต่หลังจากนั้นไม่นาน Alistar ก็ได้เรียนรู้ว่า ชื่อเสียงที่ได้มานั้น เปรียบได้เหมือนกับพลังอย่างหนึ่ง ซึ่งพลังที่ว่านี้ ก็คือ อิทธิพลที่เค้ามีต่อสื่อทั่วไปนั่นเอง... เพราะเหตุนี้ Alistar จึงได้ผันตัวเองไปเป็นทนายเอื้ออาทร ที่คอยว่าความให้กับผู้ที่มีคดีกับประเทศ Noxus และมักที่จะพูดเกี่ยวกับความลับที่กองทัพของประเทศ Noxus พยายามจะปกปิดไม่ให้สาธารณชนได้รู้ อยู่เสมอ
งานการกุศลที่ Alistar ทำ และรางวัลขอบคุณมากมายที่เค้ามี สร้างความแตกต่างที่น่าสนใจ หากเรามันนำไปเปรียบเทียบกับ ความบ้าคลั่ง และความวินาศที่เค้านำมาสู่สนามการแข่งขัน League of Legends
"ถ้าเจ้าตั้งใจจะเผชิญกับสถานการณ์อันยากเย็น... Alistar อาจจะมีเรื่องอะไรบางอย่างอยากจะพูดกับเจ้า"
****ความรู้รกหัว
- คำว่า Alistar แปลว่า ผู้พิทักษ์ ในภาษาอังกฤษโบราณ ซึ่งถือเป็นชื่อที่เหมาะสมกับหนึ่งใน champion ประเภท tank ตัวแรกๆของเกมส์
-----------------------------------------
ประโยคที่ Alistar พูดกับ summoner ในสถานการณ์ต่างๆ:
เมื่อเลือก champion:
เมื่อเคลื่อนที่ และทำการโจมตี:
เมื่อทำการยั่วยุศัตรู (/T):
เมื่อพูดเล่น (/J):
เมื่อเลือก champion:
- "Nothing can hold me back!" (ไม่มีอะไรจะหยุดข้าได้!)
เมื่อเคลื่อนที่ และทำการโจมตี:
- "Stampede!" (คำว่า Stampede แปลว่า ความแตกตื่น หรือ ความโกลาหลที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน คำๆนี้เป็นคำพูดที่ Alistar ใช้ตอบรับคำสั่ง ที่แสดงให้เห็นภาพรวมของรูปแบบการต่อสู้ที่ Alistar ใช้ซึ่งเป็นรูปแบบการต่อสู้ที่เน้นการสร้างความวุ่นวายให้กับเหล่าศัตรูเป็นหลัก)
- "You must follow." (เจ้าจะต้องทำตามข้า)
- "I know the way." (ข้ารู้ทางดีอยู่แล้ว)
- "Nothing can hold me back." (ไม่มีอะไรจะหยุดข้าได้!)
- "Now I'm angry." (ในตอนนี้ ข้ากำลังโมโห)
เมื่อทำการยั่วยุศัตรู (/T):
- "Mess with the bull and you get the horns!" (แปลตรงตัวว่า "จะมาลองของกับวัวกระทิง ก็ต้องเจอขวิดหน่อยล่ะ!" คำว่า horn แปลได้หลายความหมาย ทั้งแปลว่า เขาสัตว์, ดนตรีเครื่องเป่าชนิดหนึ่ง, แตรรถ, และการขวิดด้วยเขาสัตว์ ดังนั้น หากดูจากรูปประโยค คำว่า horn ที่แปลว่าการขวิดจะเหมาะสมที่สุด)
เมื่อพูดเล่น (/J):
- "You can't milk those." (แปลตรงตัวว่า "เจ้าจะรีดนมจากพวกมันไม่ได้หรอกนะ! **พูดถึงเต้านมของตัวเอง**" ประโยคนี้เป็นการพาดพิงถึงความเชื่อที่ผิดของคนทั่วไปที่ว่า การรีดวัวกระทิงนั้น ทำได้เหมือนกับการรีดนมวัวทั่วไป ซึ่งถือว่าไม่เป็นความจริง)