เล่าสู่กันฟัง: Rumble, the Mechanized Menace

Rumble: ช่างกลอัจฉริยะชาว Yordle

ประวัติ
Rumble นั้นเปรียบเหมือนนกน้อยในป่าใหญ่ ท่ามกลางเหล่า Yordle (ยอร์เดิ้ล) อยู่เสมอ เพราะฉะนั้น เค้าจึงถูกรังแกอยู่เป็นประจำ เพื่อความอยู่รอด เค้าจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนที่ชอบหาเรื่อง และ เจ้าเล่ห์ กว่าเพื่อนคนอื่นๆ... Rumble ได้กลายเป็นคนที่ใจร้อน และมีชื่อเสียงในการชอบเอาคืน ไม่ว่าใครจะทำอะไรไว้กับเค้าก็ตาม ถึงแม้ว่านิสัยแบบนี้จะทำให้เค้าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในบางครั้ง แต่เค้าก็ไม่ใส่ใจมากนัก 

Rumble ชอบการบัดกรี และชอบนำสิ่งของหรือกลไกต่างๆ ที่ถูกทิ้งอยู่ตามสถานที่ทิ้งขยะมาผสมกัน ซึ่งเป็นการแสดงถึงศักยภาพในด้านช่างกลของเค้า อาจารย์ของเค้าจึงแนะนำให้ไปสมัครเข้าเรียนที่ The Yordle Academy of Science and Progress (เดอะ ยอร์เดิ้ล อเคดิมี้ ออฟ ไซแอ้นซ์ แอนด์ พรอเกรส) ที่นครรัฐ Piltover (พิล์ทโอเวอร์) สถานที่ๆเค้าอาจจะมีโอกาสเป็นหนึ่งในศิษย์รักของ Heimerdinger (ไฮม์เมอร์ดิงเจอร์)... แต่เค้ากลับปฏิเสธ เพราะเค้าเชื่อว่า Heimerdinger และผู้ช่วย คือพวกขายชาติ โดยการมอบเทคโนโลยีของชาว Yordle ให้มนุษย์ เพื่อแลกกับคำชมเล็กๆน้อย ในขณะที่เหล่า Yordle นั้น ยังคงเป็นตัวตลกของมนุษย์เช่นเดิม

ครั้งหนึ่ง กลุ่มมนุษย์ผู้สำเร็จการศึกษาจาก The Yordle Academy ล่องเรือไปที่ Bandle City (แบนเดิ้ล ซิตี้) สถานที่ๆอาจารย์ของพวกเค้าเกิดและเติบโต... Rumble ไม่สามารถที่จะห้ามใจตัวเองในการที่จะไปเผชิญหน้ากับเหล่ามนุษย์กลุ่มนั้น เจตนาของเค้ามีเพียงแค่อยากจะเห็นมนุษย์ตัวเป็นๆ ด้วยตาของเค้าเอง... แต่หลังจากคำพูดหลายๆคำกับเวลาสี่ชั่วโมงที่ผ่านไป Rumble ต้องกลับมานั่งช้ำใจเมื่อได้รู้ว่า ในสายตาของคนอื่น เค้านั้น เปรียบเหมือนกับความอับอาย เมื่อเปรียบเทียบกับอัจฉริยะชาว Yordle อย่าง Heimerdinger... เช้าวันต่อมา Rumbleจึงตัดสินใจเดินทางออกจาก Bandle City โดยไม่บอกใคร และไม่มีใครได้พบเห็นเค้าอีกเป็นเวลานานหลายเดือน

หลัง จากนั้น Rumble ได้กลับมาที่ Bandle City อีกครั้งบนที่นั่งคนขับของเครื่องจักรประหลาด เค้าบังคับเครื่องจักรให้เดินไปที่กลางตัวเมือง ท่ามกลางผู้คนที่กำลังพูดอะไรไม่ออก และประกาศว่า เค้าจะเข้าร่วมแข่งขัน League of Legends เพื่อแสดงให้โลกได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของเทคโนโลยีที่ชาว Yordle สร้างขึ้น โดยไม่ต้องหลบอยู่ข้างหลังชนชาติอื่นอีกต่อไป

"ฮึ... นี่คงต้องใช้เวลาตลอดชีวิตเพื่อที่จะขัดใบหน้าของนายให้หายออกไปจากหุ่นของฉัน!" กล่าวโดย Rumble

****ความรู้รกหัว
  • อ้าง อิงจากข้อมูลในตอนที่ Rumble เข้ารับการทดสอบเพื่อที่จะเป็น champion พบว่า หุ่นยนต์ของ Rumble มีชื่อว่า Tristy (ทริสตี้)... ชื่อของหุ่นยนต์ตัวนี้จะเกี่ยวข้องกับ Tristana (ทริสทาน่า) อย่างไรนั้น ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด

    ------------------------------------------


    ประโยคที่ Rumble พูดกับ summoner ในสถานการณ์ต่างๆ:

    เมื่อเลือก champion:
    • "Let's get in a fight." (เราออกไปหาเรื่องกันเถอะ)

    เมื่อเคลื่อนที่ และทำการโจมตี:
    • "Ever looked up to a yordle?" ("look up" เป็นสำนวนภาษาอังกฤษที่แปลว่า นับถือ หรือ เลื่อมใสในตัวของคนๆหนึ่ง และ ยังสามารถแปลว่า แหงนมองขึ้นไปด้านบนได้อีกด้วย... ดังนั้น ประโยคนี้จึงสามารถแปลได้ถึงสองความหมาย ดังนี้ "นายเคยเลื่อมใสในตัวของ Yordle มั้ย?" หรือ "นายเคยจำเป็นที่จะต้องแหงนมอง Yordle มั้ย?"... เมื่อคำนึงถึงนิสัย และประวัติของ Rumble แล้ว ประโยคนี้น่าจะให้ความหมายในอย่างหลังมากกว่า เพราะ Rumble มักจะขับหุ่นยนต์ยักษ์ในเวลาที่ทำการแข่งขัน League of Legends อยู่เสมอ ทำให้ตัวเองยืนอยู่สูงกว่าคนอื่น นอกจากนั้นแล้ว ความหมายแบบนี้ ยังเข้ากับนิสัยที่ก้าวร้าวชอบหาเรื่องของ Rumble อีกด้วย)
    • "Who you calling little?" (แปลตรงตัวว่า "นายเรียกใครว่าไอ้เตี้ย?" ประโยคนี้ยืนยันนิสัยของ Rumble ที่ว่า เค้าไม่ชอบให้ใครเรียกเค้าว่า "เตี้ย")
    • "You don't have to tell me twice." (นายไม่จำเป็นต้องบอกฉันเป็นครั้งที่สองหรอก)
    • "The bigger they are, the harder I hit 'em!" (ยิ่งเจ้าพวกนั้นตัวใหญ่มากเท่าไหร่ ฉันก็จะโจมตีพวกมันแรงขึ้นเท่านั้น)
    • "Revved up!" (ติดเครื่อง!)
    • "Baby, don't fail me now!" (ที่รัก อย่าทำให้ฉันผิดหวังตอนนี้เลย! **พูดกับ Tristy**)
    • "Alright, I'm going." (แปลตรงตัวว่า "อืม, กำลังไป" ในที่นี้ Rumble พูดแบบนี้เพื่อตอบรับคำสั่ง)
    • "Now we're cookin'." (คำว่า "cooking" ซึ่งสะกดแบบ cookin ในประโยคนี้ เป็นการสะกดตามการออกเสียง และไม่ได้แปลว่า ทำกับข้าว... คำว่า cooking ในรูปประโยคลักษณะนี้แปลว่า กำลังเกิดขึ้น ทำให้เกิดขึ้น หรือกำลังพัฒนา... ดังนั้น ประโยคนี้จึงแปลเป็นสำนวนภาษาไทยได้ประมาณว่า "เรามาทำให้มันเกิดขึ้นกันเถอะ" ซึ่งสิ่งที่ Rumble อยากที่จะทำให้สำเร็จน่าจะเป็น คำสั่งของ summoner หรือ ชัยชนะในการแข่งขัน) 
    • "Ready for Round Two!" (แปลตรงตัวว่า "พร้อมสำหรับยกที่สองแล้ว" ประโยคนี้แสดงถึงนิสัยชอบหาเรื่องของ Rumble โดยแสดงให้เห็นว่า เค้าพร้อมที่จะต่อสู้อยู่เสมอ)
    • "Thought you'd never ask!" (แปลตรงตัวว่า "นึกว่านายจะไม่ถามฉันซะแล้ว" ประโยคนี้แสดงถึงฝีมือการต่อสู้ของ Rumble ที่แทบจะทำให้ summoner ไม่ต้องถามหรือออกคำสั่งเลย)
    • "This is gonna be bumpy." (แปลตรงตัวว่า "การเดินทางครั้งนี้คงจะเป็นการเดินทางที่ขรุขระหน่อยล่ะ" ประโยคนี้แสดงถึงความรู้สึกของ Rumble ในขณะที่กำลังบังคับ Tristy)
    • "Time for a Bandle City beatdown." (คำว่า "beatdown" เป็นคำศัพท์แสลงที่แปลว่า การโจมตี การต่อสู้ หรือ การทุบตีอย่างรุนแรง ดังนั้น ประโยคนี้จึงแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "ถึงเวลาของการโจมตีในแบบฉบับของ Bandle City แล้ว")
    • "Hold her steady."  (ประโยคนี้อ้างอิงมาจากสำนวน "Steady as she goes" ซึ่งเป็นคำสั่งที่ใช้ในการเดินเรือ และการทหารที่หมายถึง การควบคุมเรือ หรือพาหนะ ให้มุ่งไปในทิศทางเดียวไปเรื่อยๆ... ดังนั้น ประโยคนี้จึงแสดงให้เห็นว่า Rumble กำลังพยายามที่จะควบคุม Tristy ให้เดินไปในทิศทางที่ต้องการ)

     เมื่อ Rumble อยู่ในสถานะ Overheat:
    • "Ouch ouch ouch! Hot hot hot hot!" (โอ้ย โอ้ย โอ้ย! ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน!)

     เมื่อ Tristy อยู่ในสถานะ Overheat
    • "Warning! Warning! Warning!" (ระวัง! ระวัง! ระวัง!)

    เมื่อทำการยั่วยุศัตรู (/T):
    • "Come on, I'm not even holding the controls." (โห่ เข้ามาสิ กลัวอะไรล่ะ นี่ฉันยังไม่ได้คือคันบังคับเลยนะ)

    เมื่อพูดเล่น (/J):
    • "Turbo on! Uh...wuuh? Just needs a little kick start there. Hyup." (แปลตรงตัวว่า "เปิดระบบเทอร์โบ! เอ่อ... อ๊า? **Tristy หงายหลัง, Rumble ตกออกจากที่นั่งคนขับ** ก็แต่ต้องสตาร์ทเครื่องใหม่เท่านั้นเอง **เตะหุ่น แล้วปีนกลับขึ้นไปบนที่นั่งคนขับอีกครั้ง**  ฮึบ" ประโยคนี้เป็นการเล่นคำ ของคำว่า "kick start" ซึ่งหมายถึง การสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่อีกครั้ง หรือ การสตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์... นอกจากนั้นแล้ว ถ้าเราแบ่งคำว่า kick และ start ออกจากกันแล้วแปลความหมายใหม่ การ "kick start" จะหมายถึง การที่เราใช้เท้าเตะเครื่องยนต์ที่มีปัญหาให้กลับมาทำงานดังเดิม)
    • "Bandle Citeh--Oops, forgot the clutch." (แบนเดิ้ล ซิเต้... **Tristy หงายหลัง, Rumble ตกออกจากที่นั่งคนขับ** อุ้ย ลืมเหยียบคลัชท์ **เตะหุ่น แล้วปีนกลับขึ้นไปบนที่นั่งคนขับอีกครั้ง**)