เล่าสู่กันฟัง: Lee Sin, The Blind Monk

Lee Sin: พระวัด Shojin ผู้เป็นที่นับถือของชาว Ionia

ประวัติ
Lee Sin (ลีซิน) มีความตั้งใจอยากที่จะเป็น summoner ตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม ด้วยความขยันและทุ่มเทที่ไม่มีใครเทียบได้ เค้าจึงเป็นที่ต้องตาของ Reginald Ashram (เรจินัลด์ แอชราม) สมาชิกชั้นสูงของสภา League of Legends ในตอนนั้น

Lee Sin เข้าศึกษาเวทย์มนต์ที่ Arcanum Majoris (อาร์คานัม มาจอริส) แต่ไม่ชอบหลักสูตรของโรงเรียนที่ช้าไม่ทันใจ เค้าจึงใช้เวลาว่างศึกษาวิชาอัญเชิญ (summon) ที่แตกต่างออกไปด้วยตัวเอง ด้วยความหวังที่จะได้จบการศึกษาก่อนคนอื่นๆ ซึ่งเค้าก็ได้พัฒนาวิชาอัญเชิญไปอย่างรวดเร็ว ล้ำหน้านักเรียนทุกๆคนในชั้นเดียวกัน.... Lee Sin คงจะได้เป็นหนึ่งใน summoner ที่เก่งที่สุดอย่างแน่นอน ถ้าเค้าไม่ได้ทำความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนอนาคตของเค้าไปตลอดกาล

ด้วยความร้อนวิชา Lee Sin ได้ทดลองใช้วิชาอัญเชิญที่เค้าเรียนมาเพื่อที่จะอัญเชิญสัตว์จากป่า The Plague Jungles (เดอะ เพล้ก จังเกิ้ล) แต่สิ่งที่เค้าอัญเชิญมากลับกลายเป็นเด็กผู้ชาย... Lee Sin ยังไม่ทันได้เห็นหน้าเด็กคนนั้นดี ร่างกายของเด็กก็กลับทรุดลงกองกับพื้นกลายเป็นแค่ร่างไร้วิญญาณ หลังจากนั้น ทางสภา League ยังสืบพบอีกว่าหมู่บ้านของเด็กชายคนนั้นได้ถูกทำลายพังพินาศเนื่องมาจากผลข้างเคียงของพิธีอัญเชิญ

พรสวรรค์ของ Lee Sin มีสูงมากถึงขั้นที่สภา League ตกลงยอมที่จะมองข้ามเหตุการณ์ครั้งนี้แต่ตัวของเค้าเองไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ เค้าจึงลาออกจากโรงเรียนไปบวชเป็นพระที่วัด Shojin (วัดโชจิน) เพื่อที่จะอยู่กับความผิดของตัวเอง พร้อมทั้งสาบานว่าจะไม่ใช้เวทมนต์อีก

หลายปีต่อมา ด้วยความหวังที่จะไถ่บาปให้ตัวเองด้วยความทรมาณ Lee Sinได้ทำการจุดไฟเผาตัวเองเพื่อร่วมประท้วงทวงอิสระของประเทศ Ionia (ไอโอเนีย) คืนจากปรเทศ Noxus (น๊อกซัส) โดยที่เค้าไม่ยอมให้ใครมาดับไฟจนกว่า Ionia จะได้อิสระกลับคืนมา

Lee Sin นั่งทนความเจ็บปวดจากเปลวเพลิงอยู่หลายสัปดาห์ จนกระทั่ง Ionia ชนะสงครามและเป็นอิสระ แต่เมื่อไฟดับลง ทุกคนก็พบว่าดวงตาของ Lee Sin ได้ถูกไฟไหม้จนหมดไปจากเบ้าตาแล้ว

หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป Lee Sinได้เรี่ยวแรงและกำลังใจในการใช้ชีวิตกลับมาอีกครั้ง เค้าจึงเข้าร่วม League of Legends ในฐานะ Champion เพื่อไถ่บาปให้ตัวเองต่อไปด้วย หยาดเหงื่อและเลือดเนื้อของเค้า

"การกระทำของคนๆเดียวอาจจะทำให้โลกแตกแยกได้ แต่เราสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยความเพียรพยายามของคนทุกคน" กล่าวโดย Lee Sin

**** ความรู้รกหัว
  • Reginald คือ ชื่อของผู้เล่นคนนึงที่โด่งดังในสังคม LoL ในเรื่องนิสัยที่ใจร้อนมากๆ เค้าคือผู้เล่นที่เล่น Shaco ได้ดีที่สุดของเซิฟเวอร์ US และยังเป็นหัวหน้าของทีม Team Solomid (TSM) อีกด้วย
  • ชื่อของ Lee Sin สามารถทำมาเรียงใหม่เป็น See Nil แปลว่า มองไม่เห็นได้ (See = มอง, Nil = ว่างเปล่า, ศูนย์) คาดว่าเป็นเทคนิกการเล่นคำเดียวกันที่ใช้กับชื่อของ Shaco ซึ่งชื่อสามารถเอามาเรียงใหม่เป็น Chaos ที่แปลว่า ความวุ่นวายได้ครับ

----------------------------------------


ประโยคที่ Lee Sin พูดกับ summoner ในสถานการณ์ต่างๆ:

เมื่อเลือก champion:
  • "Your will, my hands." (แปลตรงตัวว่า "ปณิธานของเจ้า ด้วยมือของข้า" ประโยคนี้สื่อความหมายว่า Lee Sin พร้อมที่จะสละตัวเองเพื่อช่วย summoner ให้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ได้สำเร็จ)

เมื่อเคลื่อนที่ และทำการโจมตี:
  • "Extend your senses..." (แปลตรงตัวว่า "จงขยายประสาทสัมผัสของเจ้า..." ซึ่งเป็นการแนะนำให้ summoner ระวังภัยรอบตัวโดยการตั้งใจใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดที่มีอย่างเต็มที่)
  • "Find your center." (แปลตรงตัวว่า "จงหาจุดศูนย์กลางของเจ้าให้เจอ"  ประโยคนี้น่าจะเป็นการบอกให้ summoner ค้นหาความสมดุลย์ในตัวเอง)
  • "I will atone."  (แปลตรงตัวว่า "ข้าจะชดใช้ให้เอง" ประโยคนี้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของ Lee Sin ในการเข้าร่วม League of Legends เพื่อไถ่บาปให้กับสิ่งที่เค้าได้ทำผิดพลาดไปในอดีต)
  • "Master yourself, master the enemy." (หากเจ้าควบคุมตัวเองได้ เจ้าก็สามารถควบคุมศัตรูได้เช่นกัน)
  • "Quiet steps..." (แปลตรงตัวว่า "ก้าวเดินอย่างสงบเงียบ" ทั้งนี้ Lee Sin อาจจะพูดถึงการเดินของตัวเอง หรือเสียงเดินของศัตรูที่ใกล้เข้ามา เนื่องจาก Lee Sin สูญเสียการมองเห็น ประสาทการได้ยินของเค้าจึงดีกว่าคนปกติทั่วไป)
  • "Strike firmly." (จู่โจมอย่างหนักแน่น)
  • "Their heartbeats quicken." (เสียงหัวใจของเหล่าศัตรูเต้นเร็วขึ้น)
  • "Waste not a minute!" (จะไม่ให้เสียเวลาซักนาทีเดียว)
  • "We do what we must..." (เราต้องทำในสิ่งที่จำเป็น)
  • "Where am I needed?" (ประโยคนี้เป็นสำนวนที่ใช้เสนอตัวรับใช้ผู้บังคับบัญชา ในที่นี้ Lee Sin เสนอตัวที่จะไปในทุกที่ๆ summoner ต้องการ)

เมื่อทำการยั่วยุศัตรู (/T):
  • "Force is meaningless without skill!"  (พละกำลังมันไม่มีความหมาย หากไม่มีฝีมือมากพอที่จะใช้มัน)
  • "You have not earned victory this day!" (แปลตรงตัวว่า "เจ้ายังไม่ได้รับชัยชนะ (Victory) ในวันนี้" **พูดกับ summoner ฝ่ายตรงข้าม** สื่อความหมายว่า ศัตรูยังไม่ได้รับชัยชนะจากแมชต์ที่ผ่านๆมาในวันนี้ และจะต้องพ่ายแพ้ในแมชต์ที่กำลังแข่งขันอยู่อีก)

เมื่อพูดเล่น (/J):
  • "Blindness is no impairment against a smelly enemy!" (การมองไม่เห็นไม่ใช่ความอ่อนแอหรือข้อเสียเมื่อต้องสู้กับศัตรูที่มีกลิ่นตัวแรง)