LoL News: A New Champion Approaches - Yorick, The Gravedigger

Yorick, the Gravedigger

ประวัติ
งานของเหล่านักขุดหลุมศพอาจจะเป็นแค่สิ่งจำเป็น สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทั่วไป แต่อาชีพนี้กลับเป็นงานที่มีค่าเหลือล้น บนเกาะ Shadow Isles (ชาโดว์ ไอส์, เกาะที่อยู่นอกเขตดินแดน Valoran)... ที่เกาะแห่งนี้ ความตายถูกจัดให้อยู่ในหลายระดับ ซึ่งทุกคนต่างก็ให้การยอมรับความตายทุกๆระดับ อย่างเต็มใจ และไม่กลัวหรือบ่นใดๆทั้งสิ้น แต่ละคนสามารถที่จะเลื่อนชั้น จากระดับหนึ่ง ไปอีกระดับหนึ่งได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการช่วยเหลือจากพลังเวทย์มนต์ของมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

หลังจากสงครามหินเวทย์มนต์ครั้งแรกสิ้นสุดลง Yorick Mori (ยอร์ริก มอร์รี) ได้หาเลี้ยงตัวเองในฐานะนักขุดหลุมศพมาโดยตลอด ครอบครัวของเค้าคือผู้ดูแล และเป็นเจ้าของ The Final Rest Memorial (เดอะ ไฟนอล เรส เมโมเรียล) หนึ่งในสุสานที่เก่าแก่ที่สุดของแผ่นดิน Valoran (เวโลแรน)... พลั่วขุดดินที่ Yorick ใช้ในการทำงาน คืออุปกรณ์ที่ถูกสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน... นักขุดหลุมศพรุ่นก่อนๆมักจะสอนลูกชายของตัวเองเสมอว่า พลั่วขุดดินด้ามนี้ เป็นพลั่วที่เปียกชุ่มไปด้วยวิญญาณของเหล่าบรรพชน ซึ่งวิญญาณเหล่านี้ จะคอยปกป้องผู้ใช้ ในระหว่างที่ทำงานอยู่ท่ามกลางศิลาหน้าหลุมฝังศพ ในคืนที่เงียบเหงา

เป็นที่น่าเสียดายที่ Yorick ได้เสียชีวิตลงโดยที่ยังไม่มีทายาทผู้สืบทอดแม้แต่คนเดียว ซึ่งส่งผลให้ตระกูล Mori อันภาคภูมิ จำต้องสิ้นสุดลง... ร่างของ Yorick พร้อมกับพลั่วของเค้า ได้ถูกนำไปฝังในหลุมฝังศพประจำตระกูล และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สุสาน The Final Rest Memorial ก็ถูกปล่อยให้รกร้าง... อย่างไรก็ตาม ความตาย กลับไม่ใช้จุดจบอย่างที่ Yorick เคยคิดเอาไว้

Yorick ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ที่ริมชายฝั่งอันน่าสะพรึงกลัวของเกาะ Shadow Isles เค้าถือพลั่วขุดดินแสนรักเอาไว้ในมือ และอยู่ในสภาพที่ดูเหมือนจะยังไม่ตาย แต่ก็ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน

ในเวลาไม่นานนัก Yorick ได้เรียนรู้ว่า ด้วยพลั่วด้ามนี้ เค้าสามารถที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ส่งวิญญาณ เพื่อช่วยเหล่าผีดิบที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ ในการไต่บันไดของความตายที่มีอยู่หลายระดับ การทำงานเป็นผู้ส่งวิญญาณของ Yorick ได้พิสูจน์ให้ตัวของเค้าเองเห็นว่า คำสาปของนักขุดหลุมฝังศพ ที่จะต้องขุดหลุมส่งศพให้ครบตาม "จำนวนที่กำหนด" เพื่อให้ตัวเองได้ไปผุดไปเกิดนั้น เป็นคำสาปที่มีอยู่จริง ดังที่ตำนานโบราณได้กล่าวเอาไว้ แต่ "จำนวนที่กำหนด" ไว้นั้น ไม่มีใครรู้ได้เลยว่ามันเป็นจำนวนมากเท่าไหร่... ถึงกระนั้น Yorick ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขุดหลุมฝังศพเพื่อส่งวิญญาณต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ และเค้ายังคงเฝ้ารออย่างไร้จุดหมายถึงวันที่เค้าจะหลุดพ้นไปจากภาระนี้

เมื่อเวลาล่วงเลยจากหลายทศวรรษเป็นหลายศตวรรษ ความอับอายได้ผุดขึ้นมาในหัวของ Yorick เพราะจนบัดนี้ เค้ายังคงล้มเหลว และยังไม่หลุดพ้นไปจากพันธนาการของตัวเอง Yorick จึงตัดสินใจเดินทางกลับไปที่ดินแดน Valoran อีกครั้ง ด้วยความเชื่อที่ว่า  ความลับที่สามารถจะช่วยเหลือเค้าให้หลุดพ้น อาจจะถูกฝังอยู่กับศพของตัวของเค้าเองก็เป็นได้

โชคไม่ดีที่เมื่อ Yorick เดินทางไปถึงที่หมาย ร่องรอยต่างๆ หลุมฝังศพประจำตระกูล และสุสาน The Final Rest Memorial กลับอันตรธานหายไปจนหมดสิ้น... ความหวังของ Yorick คงจะะหมดสิ้นลง ถ้าเค้าไม่ได้ค้นพบการแข่งขัน League of Legends ที่ทำให้เค้ามองเห็นโอกาสที่จะทำให้ชื่อของตระกูล Mori กลับมาคงอยู่อย่างอมตะ จากที่ถูกลืมไปนานแสนนาน

"ตายซะก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกัน" กล่าวโดย Yorick

------------------------------------------

Skill

Unholy Covenant (Innate):
Yorick จะแข็งแกร่งขึ้น และโจมตีรุนแรงขึ้นตามจำนวนผีดิบที่กำลังมีชีวิตอยู่, Yorick จะได้รับ damage น้อยลง 5% ต่อผีดิบหนึ่งตัวที่กำลังมีชีวิตอยู่, attack damage ของเหล่าผีดิบจะเท่ากับ 35% ของ attack damage ที่ Yorick มี, health ของเหล่าผีดิบจะเท่ากับ 35% ของ health ทั้งหมดที่ Yorick มี

Omen of War (Active):
การโจมตีครั้งต่อไปของ Yorick จะได้รับโบนัสความเสียหายแบบ physical damage พร้อมทั้งอัญเชิญผีดิบที่ทำความเสียหาย และเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าผีดิบแบบอื่นๆของ Yorick... ในขณะที่ผีดิบตนนี้มีชีวิตอยู่ Yorick จะสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

Omen of Pestilence (Active):
Yorick อันเชิญผีดิบที่ค่อยๆเน่าเปื่อยออกมา พร้อมทั้งทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงบนพื้นที่ๆกำหนด ทำความเสียหาย และทำให้ศัตรูติดสถานะ slow... ในขณะที่ผีดิบตนนี้มีชีวิตอยู่ ศัตรูที่อยู่ใกล้ๆมันจะเคลื่อนที่ได้ช้าลง

Omen of Famine (Active):
Yorick ขโมยพลังชีวิตจากเป้าหมาย พร้อมทั้งอัญเชิญผีดิบอันหิวโหยออกมา... ผีดิบตนนี้จะฮีล Yorick ทุกๆครั้งที่มันทำความเสียหายให้กับศัตรู

Omen of Death (Active/Ultimate):
Yorick ทำการปลุกวิญญาณที่ดูเหมือนเพื่อนร่วมทีมของตนเองขึ้นมา ถ้าเพื่อนร่วมทีมคนนั้นตายในขณะที่ วิญญาณยังมีชีวิตอยู่ วิญญาณตนนั้นจะสละชีวิตของมัน ให้เพื่อนร่วมทีมกลับมามีชีวิตอีกครั้งในเวลาที่จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมคนนั้นได้ล้างแค้น